top of page
PRK.jpg

PRK (Photorefractive Keratectomy) คืออะไร?

  • PRK (Photorefractive Keratectomy) เป็นการรักษาภาวะสายตาผิดปกติ รวมถึง สายตาสั้น สายตายาวโดยกำเนิด สายตาเอียง และสายตายาวตามอายุ โดยการใช้ Excimer Laser ขัดเนื้อกระจกตาชั้นกลาง โดยไม่มีขั้นตอนการแยกชั้นกระจกตา

  • PRK เป็นการรักษาภาวะสายตาผิดปกติวิธีแรกๆ เป็นวิธีที่มีมาก่อนการรักษาสายตาผิดปกติด้วยวิธี LASIK และยังใช้จนถึงปัจจุบัน

  • PRK เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่มีกระจกตาบาง และไม่สามารถรักษาภาวะสายตาผิดปกติด้วยวิธีอื่นๆ ได้

  • PRK เพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพบางอาชีพ สำหรับผู้ที่มีสายตาผิดปกติ เช่น สอบนักบิน ทหาร ตำรวจ ฯลฯ

เทคโนโลยีที่ใช้ในการรักษาด้วยวิธี PRK

  • Mel 80 Excimer Laser โดยบริษัท Carl Zeiss จากประเทศเยอรมนี

ขั้นตอนการรักษาด้วยวิธี PRK

  • จักษุแพทย์จะทำการลอกผิวกระจกตาชั้นนอกสุด (ที่เรียกว่า Epithelium) 

  • ใช้ Excimer Laser ขัดเนื้อกระจกตาชั้นกลาง เพื่อเปลี่ยนความโค้งของกระจกตา

  • ใส่คอนแทคเลนส์เพื่อช่วยลดอาการระคายเคืองประมาณ 3-5 วัน

PRK: Precursor to LASIK

  • PRK เป็นการรักษาภาวะสายตาผิดปกติ ซึ่งได้รับการพัฒนาและทำการรักษาครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2530

  • คุณวนิดา ชันซื่อ ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร TRSC เป็นคนไข้ที่ได้รับการรักษาภาวะสายตาผิดปกติของตนเองด้วยวิธี PRK ในปี พ.ศ. 2532 และผลที่ได้รับจากการรักษานั้น ก่อให้เกิดความมหัศจรรย์แห่งการมองเห็นอย่างแท้จริง และเป็นแรงบันดาลใจในการก่อตั้ง "ศูนย์รักษาสายตา TRSC" ในปี พ.ศ. 2540

  • PRK ยังคงเป็นการรักษาภาวะสายตาผิดปกติที่ให้บริการอยู่จนถึงปัจจุบัน

ผู้ที่เหมาะสมสำหรับการรักษาด้วยวิธี PRK

  • คนไข้ที่มีข้อจำกัดทางตา หรือโรคทางตาบางประเภท

  • มีกระจกตาบาง ไม่สามารถรักษาด้วยวิธี LASIK (เลสิค), FemtoLASIK, ReLEx SMILE หรือ Super ReLEx (SMILE Pro) ได้

  • มีค่าสายตาสั้นและค่าสายตาเอียงรวมกันไม่เกิน -8.00 Diopter

  • มีประวัติกระจกตาถลอกง่าย หรือมีประวัติการลอกหลุดของกระจกตา (Recurrent Corneal Erosion)

  • มีภาวะตาแห้ง

  • ข้อจำกัดทางด้านอาชีพ เช่น สอบนักบิน ทหาร ตำรวจ

  • ความโค้งกระจกตาผิดรูปไม่เหมาะกับการแยกชั้นกระจกตา

ข้อดีของการรักษาด้วยวิธี PRK

  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีกระจกตาบาง

  • ลดความเสี่ยงในกรณีที่อาจจะแยกชั้นกระจกตาไม่ได้ เช่น ตาเล็ก หรือเบ้าตาลึก

  • ไม่มีรอยแยกของชั้นกระจกตา 

  • เพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพบางอาชีพ เช่น สอบนักบิน ทหาร ตำรวจ

ข้อจำกัดของการรักษาด้วยวิธี PRK

  • ระยะเวลาการหายของแผลนานกว่าการรักษาภาวะสายตาผิดปกติวิธีอื่นๆ

  • จำเป็นต้องมีการใส่คอนแทคเลนส์ เพื่อลดอาการระคายเคืองของแผลหลังทำการผ่าตัดประมาณ 3-5 วัน

  • การตรวจติดตามหลังผ่าตัด ในช่วงสัปดาห์แรก จะมีความถี่มากกว่าการรักษาประเภทอื่นๆ

  • หลังทำการรักษา คนไข้จะมีความไม่สบายตา อาจมีอาการแสบตา ระคายเคืองตา ลืมตาไม่ขึ้น สู้แสงไม่ได้ น้ำตาไหล มองเห็นภาพไม่ชัดเจน ซึ่งระดับอาการดังกล่าว จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ บางท่านอาจรู้สึกเหมือนปกติไม่มีอาการใดๆ

bottom of page