top of page
FemtoLASIK.jpg

FemtoLASIK คืออะไร?

  • FemtoLASIK เป็นการรักษาภาวะสายตาผิดปกติ รวมถึง สายตาสั้น สายตายาวโดยกำเนิด สายตาเอียง และสายตายาวตามอายุ โดยการเปิดกระจกตา ด้วย Femtosecond Laser และปรับความโค้งกระจกตาด้วย Excimer Laser

  • FemtoLASIK เป็น “Bladeless LASIK” ถูกพัฒนาจาก LASIK โดยการใช้ Femtosecond Laser แทนใบมีด Microkeratome ในการเปิดชั้นกระจกตา*

  • FemtoLASIK และ LASIK เป็น concept การผ่าตัดเดียวกัน เพียงแต่เทคโนโลยีแตกต่างกัน

Femtosecond Laser คืออะไร?

  • Femtosecond Laser เป็นนวัตกรรมใหม่ที่มีการพัฒนาในปี 2009 ซึ่งเป็น Ultrashort Pulse Laser มีความเร็วในระดับ 500 กิโลเฮิร์ต

  • คุณสมบัติของ Femtosecond Laser คือ ความสามารถในการรวมแสงเพื่อการตัดเยื่อบุกระจกตา ทำให้เป็นตัวเลือกแทนการใช้ใบมีดในการเปิดแยกชั้นกระจกตา

  • ปัจจุบัน TRSC เลือกใช้ Visumax Femtosecond Laser โดยบริษัท Carl Zeiss Meditec ซึ่งเป็น Femtosecond Laser ที่มีความแม่นยำสูงเพื่อผลการรักษาที่ดีเยี่ยม ซึ่ง Visumax Femtosecond Laser เป็น Femtosecond laser เทคโนโลยีเดียวในปัจจุบันที่สามารถรักษา ReLEx SMILE ได้

เทคโนโลยีที่ใช้ในการรักษาด้วยวิธี FemtoLASIK

  • Visumax Femtosecond Laser โดยบริษัท Carl Zeiss จากประเทศเยอรมนี

  • Mel 80 Excimer Laser โดยบริษัท Carl Zeiss จากประเทศเยอรมนี

ขั้นตอนการรักษาด้วยวิธี FemtoLASIK

  • ใช้ Visumax Femtosecond Laser ในการแยกชั้นกระจกตา

  • ใช้เครื่องมือยกชั้นกระจกตาขึ้นเพื่อเตรียมพื้นที่กระจกตาชั้นกลาง ให้พร้อมสำหรับการปรับความโค้งกระจกตาด้วยเลเซอร์

  • ใช้ Excimer Laser ปรับเปลี่ยนความโค้งกระจกตา

  • ปิดกระจกตาที่แยกชั้นไว้กลับไปที่ตำแหน่งเดิม ซึ่งกระจกตาจะสามารถสมานตัวเองได้ หลังจากที่ถูกปิดลงโดยไม่ต้องเย็บแผลใดๆ

FemtoLASIK: เทคโนโลยีระหว่าง LASIK และ ReLEx

  • TRSC เริ่มทำการรักษาภาวะสายตาผิดปกติ ด้วยวิธี FemtoLASIK ในปี พ.ศ. 2553

  • FemtoLASIK เป็นการรักษาภาวะสายตาผิดปกติ ที่พัฒนาจาก LASIK สู่การรักษาภาวะสายตาผิดปกติด้วยวิธี ReLEx SMILE ซึ่งใช้เทคโนโลยีเครื่อง Femtosecond Laser เปิดชั้นกระจกตามีความแม่นยำมากกว่าการใช้ใบมีด (Microkeratome) ถึง 3-4 เท่า

  • เทคโนโลยี Femtosecond Laser เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ทั้งสำหรับการรักษาด้วยวิธี FemtoLASIK และ ReLEx ซึ่งการรักษาทั้งสองวิธีจะแตกต่างกันในขั้นตอนการรักษา โดย ReLEx SMILE เป็นการรักษาที่มีแผลขนาดเล็ก 2-5 mm. โดยไม่ต้องทำการแยกชั้นกระจกตาเป็น flap* ในขณะที่ FemtoLASIK จะยังมีการแยกชั้นกระจกตาเป็น flap

  • FemtoLASIK สามารถรักษาประเภทของภาวะสายผิดปกติได้มากกว่า ReLEx SMILE โดยสามารถรักษาได้ทั้งสายตาสั้น สายตายาวโดยกำเนิด และสายตาเอียง ซึ่งในปัจจุบันการรักษาด้วยวิธี FemtoLASIK เป็นการรักษาที่ทันสมัยที่สุดสำหรับสายตายาวโดยกำเนิด

ข้อดีของการรักษาด้วยวิธี FemtoLASIK

  • เป็นการรักษาที่อ่อนโยนต่อดวงตามากกว่าการรักษาด้วยวิธีเลสิค (LASIK) เพราะใช้ Femtosecond Laser แทนใบมีด

  • ลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงในการแยกชั้นกระจกตา

  • แยกชั้นกระจกตาได้แม่นยำกว่าการรักษาด้วยวิธีเลสิค (LASIK)

  • สามารถรักษาสายตาสั้น สายตายาวโดยกำเนิด สายตาเอียง และสายตายาวตามอายุได้

  • สามารถแก้ไขภาวะสายตาผิดปกติ สายตาสั้นร่วมสายตาเอียง ได้ถึง -12.00 Diopter

ข้อจำกัดของการรักษาด้วยวิธี FemtoLASIK

  • FemtoLASIK มีความแม่นยำในการแยกชั้นกระจกตามากกว่าการรักษาด้วยวิธีเลสิค (LASIK) แต่ก็ยังเป็นการรักษาที่อาจเกิดผลข้างเคียงบางชนิด ได้มากกว่าการรักษาด้วยวิธี ReLEx SMILE

ผู้ที่เหมาะสมสำหรับการรักษาด้วยวิธี FemtoLASIK ที่ TRSC

  • มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป และมีสายตาคงที่อย่างน้อย 1 ปี (กรณีคนไข้อายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ นับถึงวันที่นัดผ่าตัด กรุณานำผู้ปกครองมาเซ็นเอกสารเพื่อยินยอมการผ่าตัด TRSC สามารถปฏิเสธการผ่าตัดได้ หากไม่มีผู้ปกครองมาด้วย)

  • ไม่มีโรคของกระจกตา เช่น โรคกระจกตาย้วย ตาแห้งอย่างรุนแรง และโรคตาอย่างอื่น เช่น จอประสาทตาเสื่อม

  • ไม่มีโรคทางร่างกายที่มีผลต่อการหายของแผล เช่น โรค SLE, โรค Sjogren's syndrome, โรคสะเก็ดเงิน, โรคภูมิคุ้มกันเกินอื่นๆ รวมทั้งเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดี

  • ไม่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร

  • ไม่อยู่ระหว่างการใช้ยาในการรักษาอาการทางจิตเวช

  • ผ่านการตรวจวิเคราะห์สภาพตาโดยจักษุแพทย์ของ TRSC และยืนยันว่า คนไข้มีสุขภาพตาสมบูรณ์แข็งแรง สามารถเข้ารับการรักษาได้ตามมาตรฐานความปลอดภัยสากล

  • มีความเข้าใจถึงการรักษาภาวะสายตาผิดปกติ ด้วยวิธี FemtoLASIK อย่างละเอียด และมีความคาดหวังที่ถูกต้อง

การเตรียมตัวเพื่อเข้ารับการตรวจวิเคราะห์สภาพตา ก่อนทำการรักษา FemtoLASIK ที่ TRSC

  • งดใส่คอนแทคเลนส์ ก่อนวันตรวจวิเคราะห์สภาพตา ตามประเภทของคอนแทคเลนส์และจำนวนวันที่กำหนด สามารถใช้แว่นสายตาแทนในระหว่างที่ไม่ได้ใส่คอนแทคเลนส์

    • คอนแทคเลนส์ชนิดนิ่ม (Soft Lens): ต้องงดใส่คอนแทคเลนส์อย่างน้อย 3 วัน ก่อนวันตรวจวิเคราะห์สภาพตา

    • คอนแทคเลนส์ชนิดแข็ง (Hard Lens) หรือชนิดกึ่งแข็งกึ่งนิ่ม (Semi Hard Lens): ต้องงดใส่คอนแทคเลนส์อย่างน้อย 14 วัน ก่อนวันตรวจวิเคราะห์สภาพตา

  • การหยุดยาบางประเภท​

    • ต้องหยุดยารักษาสิวชนิดรับประทานในกลุ่ม Isotretinoin เช่น Roaccutane, Acnotin, Isotret ก่อนวันตรวจวิเคราะห์สภาพตาและก่อนผ่าตัด อย่างน้อย 1 เดือนเต็ม เนื่องจากยาชนิดนี้ส่งผลให้เยื่อบุตาต่างๆ แห้งกว่าปกติ รวมถึงผิวกระจกตาด้วย

    • หากใช้ยารักษาโรคประจำตัวอื่นๆ ใดอยู่ กรุณาแจ้งให้จักษุแพทย์ทราบในวันตรวจ เช่น ยาเบาหวาน, ยาลดความดัน, ยาลดไขมัน, ยาไทรอยด์ และยานอนหลับทุกประเภท แต่คนไข้ยังคงใช้ยาได้ตามปกติ ไม่ต้องหยุดยาใดๆ ก่อนวันตรวจและในวันตรวจ

  • จักษุแพทย์ผู้ตรวจวิเคราะห์สภาพตา จะเป็นผู้ทำการผ่าตัดให้กับคนไข้ ดังนั้นหากคนไข้ต้องการระบุจักษุแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด กรุณานัดตรวจวิเคราะห์สภาพตากับจักษุแพทย์ท่านนั้น​​

  • การสรุปผลการตรวจวิเคราะห์สภาพตาโดยจักษุแพทย์ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้

    • คนไข้มีสุขภาพตาสมบูรณ์แข็งแรง สามารถรักษาด้วยวิธี FemtoLASIK ได้ โอกาสสำเร็จในการรักษาและโอกาสเกิดผลข้างเคียงต่างๆ อยู่ในเกณฑ์ปกติ สามารถนัดผ่าตัดได้ทันที หรือตามที่คนไข้สะดวก​

    • คนไข้ไม่สามารถรักษาด้วยวิธี FemtoLASIK ได้ อาจเนื่องจากเหตุผลต่างๆ จากสภาพของดวงตา สภาพร่างกาย หรือสภาพจิตใจ ฯลฯ จักษุแพทย์ผู้ตรวจอาจแนะนำทางเลือกการรักษาอื่นๆ ที่เหมาะสมกับคนไข้ต่อไป เช่น วิธี PRK, การผ่าตัดใส่เลนส์เสริม (ICL) โดยจักษุแพทย์ผู้ตรวจจะให้รายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจของคนไข้ต่อไป

    • คนไข้อาจจะสามารถเข้ารับการรักษาด้วยวิธี FemtoLASIK ได้ แต่ต้องมีการรักษาอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สภาพดวงตากลับสู่สภาพปกติเหมาะสมต่อการรักษา เช่น อาการตาแห้ง หรือตาอักเสบจากการแพ้คอนแทคเลนส์ หรือการตรวจตากับจักษุแพทย์เฉพาะทางด้านอื่นๆ เพื่อประเมินโรคตาต่างๆ เช่น สงสัยโรคจอประสาทตา หรือสงสัยโรคต้อหิน ฯลฯ

bottom of page